Pet & Hipster Talk ฉบับนี้ อยากจะพาทุกคนไปชมภาพวาดสัตว์มากหน้าหลายตาที่แอบอยู่ตามส่วนต่างๆ ของบ้าน โดยการรังสรรค์ผลงานจากคุณเนียม มะวรคนอง ศิลปินที่วาดภาพโดยใช้ความรู้สึก ณ ช่วงเวลาขณะนั้น พร้อมกันกับพาไปรู้จักและพูดคุยกับคุณเนียมให้มากขึ้น
จุดเริ่มต้นที่ชอบงานศิลปะ
ถ้าถามว่าเป็นพรสวรรค์หรือพรแสวงไม่แน่ใจเลย เพราะเราเริ่มจากการชอบวาดภาพมาตั้งแต่เด็กๆ และได้มีโอกาสเป็นตัวแทนโรงเรียนไปประกวดบ้าง
มองงานศิลปะของตัวเองเป็นแบบไหน
งานของเราจะเป็นงานจากภายในไปสู่ภายนอกมากกว่า ส่วนใหญ่จะวาดภาพจากความคาใจ ความทุกข์ ความรู้สึกของตัวเอง จะไม่ค่อยสะท้อนสังคมสักเท่าไหร่นัก
คิดว่าข้อจำกัดทางด้านร่างกายของตัวเองมีผลต่องานไหม
ในช่วงเรียนจะมีปัญหากับอาจารย์มากกว่า (หัวเราะ) เพราะเราแยกโทนสีน้ำเงินกับสีม่วงไม่ค่อยออกเลยแก้ปัญหาด้วยการเพ้นท์สีแบบโมโนโทนไป พอช่วงทำงานเลยใช้สีแบบตามใจมากขึ้นและเราก็ไม่ได้คิดว่ามันเป็นข้อจำกัดแล้ว มองว่าเป็นข้อดีด้วยซ้ำ พอเห็นสีน้อยกว่าคนอื่นทำให้เราไปละเอียดอ่อนในเรื่องแสง เรื่องเงามากขึ้น เรามองให้มันเป็นพรมากกว่ามองเป็นข้อจำกัด
แรงบันดาลใจของผลงานชุด ‘anima’
เรานึกถึงคำว่า animal ที่ตัดตัว l ออกไป พอตัดออกแล้วรู้สึกว่ามันน้อยและสวย จริงๆ คำนี้แปลว่าชีวิต วิญญาณด้วย เข้ากับสัตว์ที่วาดและด้วยเสียงที่ใช้ออกคำว่า anima มันดูอ่อนโยน ก็เลยชอบคำนี้
ทำไมสัตว์ในภาพถึงต้องแอบ
อยากสื่อถึงว่าสัตว์ที่ปรากฎในภาพไม่ใช่สัตว์จริงๆ แต่เป็นเหมือนวิญญาณที่ใช้แทนความรู้สึก เวลาเข้าบ้านใหม่ เจอที่โล่งๆ จะมีความกลัว ความกังวล เปรียบเหมือนผืนผ้าใบว่างๆ ที่ทำให้เกิดจินตนาการและสะท้อนความรู้สึกออกมา คล้ายกับแมวเวลากลัวสถานที่ใหม่ๆ มันก็จะชอบไปแอบ เดินแบบระแวดระวัง
ได้เจาะจงสัตว์ที่จะวาดในแต่ละภาพไหม
จริงๆ ไม่ได้กำหนดเลย เราจะนั่งสังเกตแต่ละห้องก่อนแล้วค่อยเริ่มวาด อย่างภาพห้องน้ำไม่ได้คิดแต่แรกว่าจะเป็นฉลาม พอเห็นแล้วนึกถึงตอนเด็กๆ ที่เล่นน้ำในอ่างน้ำ นึกถึงทะเลก็เลยวาดฉลาม แต่ละห้องที่เห็นให้ความรู้สึกแบบไหนโผล่ขึ้นมาเราก็จะวาดอันนั้น
ใช้ระยะเวลาในการวาดผลงานชุดนี้นานเท่าไหร่
ทั้งหมดประมาณ 2 ปี บางภาพก็ใช้เวลาไม่นาน อย่างภาพบานประตูนั้นใช้เวลาสัปดาห์เดียว ภาพนกเค้าแมววาดอยู่เดือนนึง ภาพปลาวาฬวาดอยู่สองเดือน ที่นานเพราะแก้เยอะ กว่าจะมาเป็นปลาวาฬก็มีสัตว์มาแล้วหลายตัว ความทรงจำรูปนี้เราจะวาดเกี่ยวกับพ่อที่จากไป ตอนวาดเสร็จรู้สึกว่ายังสื่ออารมณ์ไม่ดีพอ เลยเปลี่ยนมาเรื่อยๆ จนเป็นปลาวาฬถึงโอเค เป็นหนึ่งในรูปที่เราชอบที่สุด อีกภาพคือภาพนกเค้าแมว อยากเอาไปติดที่บ้านเอง (หัวเราะ)
บางภาพทำไมถึงกลับหัว
อยากให้มุมมองมันแปลก เหมือนกับเวลาที่รู้สึกแปลกกับสถานที่ อยากจะสื่อถึงว่าตัวเรายังไม่คุ้นกับสถานที่ ยังไม่เป็นหนึ่งเดียวกับบ้าน พอได้ลองวาดกลับหัวเหมือนได้เห็นจินตนาการใหม่ๆ ในสถานที่เดิม เป็นการเล่นสนุกไปเรื่อย ไม่ได้คิดเยอะเลย (ยิ้ม)
สังเกตว่าผลงานมีหมีขาวค่อนข้างเยอะ
ข้อแรกเพราะอยากสื่อถึงวิญญาณสีขาว อีกอย่างนึงสีขาวแทนความบริสุทธิ์ได้และเรารู้สึกว่าภาวะโลกร้อนในปัจจุบันทำให้หมีไม่มีที่อยู่ มันเชื่อมโยงคล้ายกับเราตรงที่ต้องพรากจากบ้านเก่ามาอยู่บ้านใหม่
เคยเลี้ยงสัตว์บ้างไหม
เคยเลี้ยงแมว แต่ตายไปเมื่อสองปีที่แล้ว เลี้ยงมา 18 ปีเลย
และเคยวาดแมวที่เลี้ยงบ้างไหม
เคยวาดในผลงานชุดแมว จะเป็นแมวล้วนๆ
คิดยังไงกับการทำงานศิลปะในยุคนี้
เราคิดว่ายุคสมัยก่อนยากตรงที่ศิลปินค่อนข้างน้อย คนสะสมงานน้อย ยุคนี้ศิลปินเยอะ คนสะสมงานเยอะขึ้น จะมีความแข่งขันสูงก็จะยากอีกแบบหนึ่ง ในยุคนี้จะง่ายตรงที่เราสามารถไปแสดงงานเมืองนอกได้ สำหรับเราทำงานศิลปะมาตลอดก็จริง แต่กว่าจะขายงานได้ใช้เวลา 10 ปี ซึ่งหลายคนอาจจะมองว่าลำบากและเลิกล้ม แต่เรารู้สึกว่ามันเลี้ยงความสุขและจิตใจของเราได้ ทำให้เราทำอยู่ได้แม้ไม่ได้ตังค์ (ยิ้ม)
ในอนาคตมีแพลนอย่างไรต่อ
ไม่ได้กำหนดตายตัวเพราะงานแต่ละชุดจะทำตามชีวิตช่วงนั้น ส่วนช่วงนี้อยู่แต่บ้าน ความอยู่แต่บ้านนานๆ ก็จะเป็นผลงานชุดต่อไป (หัวเราะ)
ติดตามผลงานได้ที่ IG: niam_al
Pet & Hipster Talk ฉบับนี้ อยากจะพาทุกคนไปชมภาพวาดสัตว์มากหน้าหลายตาที่แอบอยู่ตามส่วนต่างๆ ของบ้าน โดยการรังสรรค์ผลงานจากคุณเนียม มะวรคนอง ศิลปินที่วาดภาพโดยใช้ความรู้สึก ณ ช่วงเวลาขณะนั้น พร้อมกันกับพาไปรู้จักและพูดคุยกับคุณเนียมให้มากขึ้น
จุดเริ่มต้นที่ชอบงานศิลปะ
ถ้าถามว่าเป็นพรสวรรค์หรือพรแสวงไม่แน่ใจเลย เพราะเราเริ่มจากการชอบวาดภาพมาตั้งแต่เด็กๆ และได้มีโอกาสเป็นตัวแทนโรงเรียนไปประกวดบ้าง
มองงานศิลปะของตัวเองเป็นแบบไหน
งานของเราจะเป็นงานจากภายในไปสู่ภายนอกมากกว่า ส่วนใหญ่จะวาดภาพจากความคาใจ ความทุกข์ ความรู้สึกของตัวเอง จะไม่ค่อยสะท้อนสังคมสักเท่าไหร่นัก
คิดว่าข้อจำกัดทางด้านร่างกายของตัวเองมีผลต่องานไหม
ในช่วงเรียนจะมีปัญหากับอาจารย์มากกว่า (หัวเราะ) เพราะเราแยกโทนสีน้ำเงินกับสีม่วงไม่ค่อยออกเลยแก้ปัญหาด้วยการเพ้นท์สีแบบโมโนโทนไป พอช่วงทำงานเลยใช้สีแบบตามใจมากขึ้นและเราก็ไม่ได้คิดว่ามันเป็นข้อจำกัดแล้ว มองว่าเป็นข้อดีด้วยซ้ำ พอเห็นสีน้อยกว่าคนอื่นทำให้เราไปละเอียดอ่อนในเรื่องแสง เรื่องเงามากขึ้น เรามองให้มันเป็นพรมากกว่ามองเป็นข้อจำกัด
แรงบันดาลใจของผลงานชุด ‘anima’
เรานึกถึงคำว่า animal ที่ตัดตัว l ออกไป พอตัดออกแล้วรู้สึกว่ามันน้อยและสวย จริงๆ คำนี้แปลว่าชีวิต วิญญาณด้วย เข้ากับสัตว์ที่วาดและด้วยเสียงที่ใช้ออกคำว่า anima มันดูอ่อนโยน ก็เลยชอบคำนี้
ทำไมสัตว์ในภาพถึงต้องแอบ
อยากสื่อถึงว่าสัตว์ที่ปรากฎในภาพไม่ใช่สัตว์จริงๆ แต่เป็นเหมือนวิญญาณที่ใช้แทนความรู้สึก เวลาเข้าบ้านใหม่ เจอที่โล่งๆ จะมีความกลัว ความกังวล เปรียบเหมือนผืนผ้าใบว่างๆ ที่ทำให้เกิดจินตนาการและสะท้อนความรู้สึกออกมา คล้ายกับแมวเวลากลัวสถานที่ใหม่ๆ มันก็จะชอบไปแอบ เดินแบบระแวดระวัง
ได้เจาะจงสัตว์ที่จะวาดในแต่ละภาพไหม
จริงๆ ไม่ได้กำหนดเลย เราจะนั่งสังเกตแต่ละห้องก่อนแล้วค่อยเริ่มวาด อย่างภาพห้องน้ำไม่ได้คิดแต่แรกว่าจะเป็นฉลาม พอเห็นแล้วนึกถึงตอนเด็กๆ ที่เล่นน้ำในอ่างน้ำ นึกถึงทะเลก็เลยวาดฉลาม แต่ละห้องที่เห็นให้ความรู้สึกแบบไหนโผล่ขึ้นมาเราก็จะวาดอันนั้น
ใช้ระยะเวลาในการวาดผลงานชุดนี้นานเท่าไหร่
ทั้งหมดประมาณ 2 ปี บางภาพก็ใช้เวลาไม่นาน อย่างภาพบานประตูนั้นใช้เวลาสัปดาห์เดียว ภาพนกเค้าแมววาดอยู่เดือนนึง ภาพปลาวาฬวาดอยู่สองเดือน ที่นานเพราะแก้เยอะ กว่าจะมาเป็นปลาวาฬก็มีสัตว์มาแล้วหลายตัว ความทรงจำรูปนี้เราจะวาดเกี่ยวกับพ่อที่จากไป ตอนวาดเสร็จรู้สึกว่ายังสื่ออารมณ์ไม่ดีพอ เลยเปลี่ยนมาเรื่อยๆ จนเป็นปลาวาฬถึงโอเค เป็นหนึ่งในรูปที่เราชอบที่สุด อีกภาพคือภาพนกเค้าแมว อยากเอาไปติดที่บ้านเอง (หัวเราะ)
บางภาพทำไมถึงกลับหัว
อยากให้มุมมองมันแปลก เหมือนกับเวลาที่รู้สึกแปลกกับสถานที่ อยากจะสื่อถึงว่าตัวเรายังไม่คุ้นกับสถานที่ ยังไม่เป็นหนึ่งเดียวกับบ้าน พอได้ลองวาดกลับหัวเหมือนได้เห็นจินตนาการใหม่ๆ ในสถานที่เดิม เป็นการเล่นสนุกไปเรื่อย ไม่ได้คิดเยอะเลย (ยิ้ม)
สังเกตว่าผลงานมีหมีขาวค่อนข้างเยอะ
ข้อแรกเพราะอยากสื่อถึงวิญญาณสีขาว อีกอย่างนึงสีขาวแทนความบริสุทธิ์ได้และเรารู้สึกว่าภาวะโลกร้อนในปัจจุบันทำให้หมีไม่มีที่อยู่ มันเชื่อมโยงคล้ายกับเราตรงที่ต้องพรากจากบ้านเก่ามาอยู่บ้านใหม่
เคยเลี้ยงสัตว์บ้างไหม
เคยเลี้ยงแมว แต่ตายไปเมื่อสองปีที่แล้ว เลี้ยงมา 18 ปีเลย
และเคยวาดแมวที่เลี้ยงบ้างไหม
เคยวาดในผลงานชุดแมว จะเป็นแมวล้วนๆ
คิดยังไงกับการทำงานศิลปะในยุคนี้
เราคิดว่ายุคสมัยก่อนยากตรงที่ศิลปินค่อนข้างน้อย คนสะสมงานน้อย ยุคนี้ศิลปินเยอะ คนสะสมงานเยอะขึ้น จะมีความแข่งขันสูงก็จะยากอีกแบบหนึ่ง ในยุคนี้จะง่ายตรงที่เราสามารถไปแสดงงานเมืองนอกได้ สำหรับเราทำงานศิลปะมาตลอดก็จริง แต่กว่าจะขายงานได้ใช้เวลา 10 ปี ซึ่งหลายคนอาจจะมองว่าลำบากและเลิกล้ม แต่เรารู้สึกว่ามันเลี้ยงความสุขและจิตใจของเราได้ ทำให้เราทำอยู่ได้แม้ไม่ได้ตังค์ (ยิ้ม)
ในอนาคตมีแพลนอย่างไรต่อ
ไม่ได้กำหนดตายตัวเพราะงานแต่ละชุดจะทำตามชีวิตช่วงนั้น ส่วนช่วงนี้อยู่แต่บ้าน ความอยู่แต่บ้านนานๆ ก็จะเป็นผลงานชุดต่อไป (หัวเราะ)
ติดตามผลงานได้ที่ IG: niam_al